Airasia digital เปลี่ยนโฉมเป็น MOVE มีอะไรมากกว่าการเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว

หลังจากโลกนี้ก้าวผ่านการระบาดอย่างหนักของโรคระบาดอย่าง Covid19 ไปแล้ว ทำให้โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ แง่มุม ตั้งแต่ในแง่มุมการใช้ชีวิตไปจนถึงแง่มุมของธุรกิจต่าง ๆ รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจอย่าง Capital A ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของสายการบิน Airasia ด้วยการเปลี่ยนโฉมธุรกิจขนานใหญ่จาก Airasia Digital ซึ่งเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มการเดินทาง เปลี่ยนชื่อเป็น Move พร้อมแปลงโฉมจากสีแดงสดกลายเป็นสีเขียวอีกด้วย

สำหรับคนไทยแล้ว เมื่อพูดถึงแบรนด์ Airasia ความคิดแรกที่จะนึกถึงก็น่าจะเป็นแบรนด์สายการบินราคาประหยัด ที่เน้นทำธุรกิจในรูปแบบ สายการบิน Low Cost ที่ทำให้ตลาดธุรกิจสายการบินคึกคักเป็นอย่างมาก และเริ่มขึ้นมาตั้งกิจการในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 เป็นต้นมา และเติบโตกลายเป็นสายการบินที่มีชื่อในหมู่คนไทยเนื่องจากความประหยัด คุ้มค่า และมีคุณภาพ

แต่ที่จริงแล้วสายการบิน Thai Airasia เป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจ Capital A ซึ่งดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ที่ครอบคลุมกับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์เป็นหลัก และการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของผู้คนก็เป็นอีกเหตุผลที่ Airasia Digital ได้รับการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ กลายเป็น MOVE โดยมี Tony Fernandes ผู้ก่อตั้ง Airasia และ CEO ของ Capital A มาเป็น Executive Chairman และได้ Nadia Omer นั่งเก้าอี้เป็น CEO อีกด้วย

MOVE นั้นจะดำเนินการครอบคลุมธุรกิจแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวราคาประหยัด และผนวกความร่วมมือกับ BigPay ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นการเงิน ให้มาอยู่ในร่มเดียวกัน เพื่อเป้าหมายในการให้ผู้ใช้งาน MOVE นอกจากจะได้รับความสะดวกในฐานะแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวแล้ว ยังตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด

ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพิ่มมาจาก MOVE จะก่อให้เกิดความเป็นไปได้อีกมหาศาล เช่น ผู้ใช้งานสามารถจ่ายเงินผ่าน QR code บนกลุ่มธนาคารที่เข้าร่วมด้วย, การโอนเงินข้ามประเทศผ่านธนาคารที่เป็นพาร์ทเนอร์, การให้บริการฟังก์ชั่นของแอปร่วมกันในประเทศที่ MOVE มีฐานอยู่เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น หรือแม้แต่การรวมคอมมูนิตี้ของผู้ใช้งาน เพื่อให้ประสบการณ์ในการเดินทางที่ดีขึ้นได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น แนะนำเพื่อนร่วมทริปที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน ให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวที่สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้นอีกด้วย

จากการเติบโตของธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ และการร่วมมือกันของพาร์ตเนอร์ของทาง Capital A เองนั้น ทำให้ในมุมมองของ Tony Fernandes คาดการณ์ไว้ว่า MOVE จะเติบโตไปได้ด้วยดี และจะมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และตอบสนองกับการคาดการณ์ของ Capital A ว่า ภายในปี 2025 รายได้หลัก ๆ ของทางบริษัท จะไม่ได้มาจากธุรกิจการบินอีกต่อไป และเป็นการกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้มากกว่าอย่างธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ไปด้วยในตัว

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia