เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ (Bernard Arnault) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO ของกลุ่มสินค้าหรูหรายักษ์ใหญ่อย่าง Moët Hennessy Louis Vuitton หรือ ‘LVMH’ กลายเป็นมหาเศรษฐีจากทวีปยุโรปคนแรกที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แทนที่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Tesla, SpaceX และ Twitter ที่ช่วงเขามักจะข่าวลบ และ สูญเสียทรัพย์สินรวมไปมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6 พันล้านบาท ในระยะเวลาแค่ไม่นาน ส่งผลให้มีเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามาจ่อบัลลังก์ของเขานั้นเอง
เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ (Bernard Arnault) วัย 73 ปี ที่ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สิน 1.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6.4 ล้านล้านบาท จากการประเมินของ Forbes ส่วน Bloomberg ก็มีการรายงานที่แตกต่างออกไป โดยมีการประเมินไว้ที่ 1.72 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 5.73 ล้านล้านบาท ครอบครองแบรนด์หรูที่เป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคนไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Tiffany & Co., Christian Dior และ แบรนด์ที่อยู่ในเครือมากมายรวมแล้ว 70 แบรนด์
เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เกิดวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1949 ในเมือง Roubaix ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยตัวเขาเองเรียนจบด้านวิศวกรรมจาก École Polytechnique ในกรุงปารีส หลังจากร่ำเรียนได้วิชาออกมา ก็เริ่มทำงานในบริษัทก่อสร้างของครอบครัวอย่าง Ferret-Savinel จนกลายเป็นประธานบริษัทในปี 1978 นับเป็นการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในแง่การงาน แล้วชีวิตเขาจะพลิกผันไปเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการสินค้าลักชูรีได้อย่างไร
6 ปี ต่อมา ก็มุ่งสู่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะไปด้านสิ่งทอ และ ค้าปลีก โดยมีจุดเริ่มต้นเมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสในช่วงนั้นกำลังมองหานักลงทุนหน้าใหม่ เพื่อรับช่วงต่อบริษัท Boussac Saint-Freres กลุ่มสิ่งทอที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ แบรนด์ฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Christian Dior นั้นก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่
อาร์โนลด์ เข้าบริหารทำให้บริษัทกลับมาทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการกลยุทธ์พัฒนาให้กลายเป็นบริษัทสินค้าหรูหราชั้นนำของโลก “เขาเสริมพลังให้ Christian Dior ให้เป็นรากฐานสำคัญขององค์กรที่เข้าสู่ยุคใหม่” นี้คือคำบรรยายที่ปรากฎบนเว็บไซต์ LVMH
ต่อมาในปี 1989 เขาได้เข้าซื้อหุ้นในเครือ LVMH ทั้งหมด โดย 2 ปี หลังจากที่รวมกลุ่มด้วยการควบรวมกิจการ Louis Vuitton and และ Hennessy ทำให้เขากลายเป็นประธานบริษัทอย่างสมบูรณ์แบบนับตั้งแต่ตอนนั้น
ถ้าพูดกันแบบซื่อๆ ถึงแม้ว่าชื่อของเขาอาจจะไม่เป็นที่จดจำมากนักถ้าเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่น แต่แบรนด์ที่เขาดูแลอยู่เติบโตโดดเด่นอย่างชัดเจน จาก Christian Dior ถึง Dom Pérignon ที่กลายเป็นชื่อที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก
ซึ่งผ่านมา 3 ทศวรรษ คงไม่ต้องมีคำบรรยายให้โลกได้รับรู้ไปมากกว่านี้ เพราะ อาร์โนลด์ พลิก LVMH ให้กลายเป็นเหมือนบ้านที่ทรงพลังสำหรับสินค้าหรู กับ 75 แบรนด์สินค้าที่แตกต่างออกไปไม่ว่าจะทั้ง ไวน์, สปิริท, แฟชั่น, ผลิตภัณฑ์จากหนัง, น้ำหอม, เครื่องสำอาง, นาฬิกา, เพชร, กระเป๋าเดินทาง และ โรงแรม โดยเขาได้เปิดร้าน Louis Vuitton ที่แรกของจีน ณ กรุงปักกิ่ง ในปี 1992
โดยในช่วงเดือนมกราคม 2021 ทางกลุ่ม LVMH ได้เขาซื้อร้านแบรนด์ค้าเพชรชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Tiffany & Co ด้วยมูลค่า 15. 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมลักชูรี
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ (Bernard Arnault)
- เขาแต่งงาน มีลูก 5 คน โดยทั้งหมดทำงานภายใต้กลุ่ม LVMH ทั้งหมด ตามการรายงานของ Bloomberg
- เขามักจะบริจาคให้องค์กรการกุศล โดยมักจะอุปถัมภ์ด้านศิลปะ และ วัฒนธรรม ซึ่งถ้าย้อนไปในปี 2019 เขาได้ช่วยเหลือโบสถ์ Notre Dame ที่ถูกไฟไหม้ ด้วยการบริจาคเงินไปถึง 212 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เขาได้สมญานามว่าเป็น “ชายที่รวยที่สุดในยุโรป” มาอย่างยาวนาน แต่เขามักจะทำตัว โลว์โปรไฟล์ เสมอ ไม่ค่อยได้ออกสื่อหรือโลกออนไลน์บ่อยเสียเท่าไหร่
Main, Hero and Featured images: Gettyimages
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia