“วี วิโอเลต วอเทียร์” ชวนทุกคนรักตัวเอง ผ่านผลงานอัลบั้มใหม่ Your Girl “จงรักตัวเองให้มาก โดยที่ไม่ต้องเอาตัวเองไปขึ้นกับความรู้สึกของคนอื่น ว่าเราดีพอสำหรับเขาหรือยัง ให้เรามองที่ตัวเอง ว่าเราดีพอสำหรับตัวเราหรือยัง ถ้าเขามองไม่เห็นมัน…ก็ระวังจะเสียใจนะ”

จากวันที่สาวน้อยวัยใส “วิโอเลต วอเทียร์” ปรากฏตัวบนเวทีประกวดร้องเพลง The Voice ss2 ในรอบ Blind Audition กับบทเพลง Leaving on a Jet Plane จนวันนี้ก็ผ่านมาเกือบ 9 ปีแล้ว เบ็ดเสร็จการทำงานในวงการที่ 27 ซิงเกิลพิเศษ หนึ่งอัลบั้มชุดภาษาอังกฤษทั้งหมด 9 เพลง และชิมลางการเป็นนักแสดงแล้ว 11 เรื่อง เธอเติบโตผ่านประสบการณ์มากมาย ที่ได้โอกาสลับคมมีดความสามารถจนกริบ และในที่สุดจากอัลบั้มสุดดาร์กฉบับภาษาอังกฤษ Glitter and Smoke ก็วิ่งมาสู่เส้นทางแห่งการค้นพบและรักตัวเองอย่างสนุกสนานอีกครั้ง ในอัลบั้มใหม่เอี่ยม Your Girl
LSA ดึงเอาศิลปินคนนี้ขึ้นมาเป็นคัฟเวอร์สตาร์ ประจำดิจิทัลคัฟเวอร์เดือนธันวาคมส่งท้ายปี ฉลองให้กับการรักตัวเองอย่างแท้จริง ผ่านการอัพเดตอัลบั้มใหม่ ตั้งแต่แรงบันดาลใจ วิธีการทำงานที่โตขึ้น และการร่วมงานเพลงกับศิลปินมาแรงคนอื่นๆ

“ต้องบอกก่อนว่าอัลบั้มนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับการรักตัวเอง การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ทั้ง self-love และรู้ว่าเราควรได้รับอะไร คือวีรู้สึกว่าบางคนยังไม่รู้จักที่จะรักตัวเอง ซึ่งวีเองก็เคยมีช่วงแบบนั้นมาก่อน เรารู้สึกว่า คำว่า your girl มันสำคัญมาก ไม่ใช่แค่เป็นคำสำหรับแฟนเท่านั้น มันสามารถเป็น your girl ในแบบเพื่อนก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ be your own girl to yourself เป็นคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเอง ใจดีกับตัวเอง และรักตัวเอง”
“ส่วนแนวเพลงที่ใช้ในอัลบั้ม คือแนวเพลงป๊อป วีทำตามเซ้นส์อย่างเดียวเลย รู้สึกแค่ว่าเพลงนี้ควรจะมีเสียงแบบนี้ จะต้องมีเปียโนบ้าง มีมิติเสียงแบบนี้ หรือใช้กลองแบบนี้ มีซาวนด์หลายๆ อย่าง แต่สุดท้ายแล้วสำหรับวีมันคือการอยู่บนพื้นฐานของสไตล์ป๊อป”

“การทำงานกับส้ม ที่วีเลือกส้ม เพราะเรามีไอเดียที่อยากจะนำเสนอความเป็นเพื่อนสาว และในอัลบั้มนี้มันมีทั้งความรักตัวเองอยู่แล้ว เราเลยอยากได้กำลังใจแบบความเป็นเพื่อนบ้าง เลยชวนเพื่อนมาแจมด้วยกัน เป็นแบบแก๊งค์สาวๆ ด้วยกัน แต่ที่วีเลือกส้ม เพราะวีคิดแค่ว่า ตัววีเป็นลูกครึ่ง แล้วชื่อวีก็แปลว่าสีม่วง ส่วนส้มก็เป็นลูกครึ่ง แล้วชื่อก็แปลว่าสีส้ม สีม่วงกับสีส้มมาอยู่ด้วยกัน อาร์ตเวิร์กน่าจะน่ารักดี (หัวเราะ) แค่นั้นเลย ก็เลยชวนมาทำเพลงด้วย เริ่มตั้งแต่คิดไอเดีย เขียนเพลง ลงมือทำด้วยกัน เลยกลายมาเป็นเพลงที่ชื่อว่า This Is Our Life”
“สำหรับแพทริค เราร่วมงานกันในชื่อเพลงว่า โลกร้าย เพลงนี้หยิบไอเดียมาจากจุดที่วีเคยดาวน์มากๆ รู้สึกเหมือนทุกอย่างมันถาโถมไปหมด แล้วในโมเม้นต์นั้น เราได้มีหนึ่งคนอยู่ข้างๆ ทำให้เรารู้สึกว่า เออ…จริงๆ แล้วโลกมันก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น แม้ทุกอย่างมันจะดูมีปัญหาไปหมด แต่มีคนหนึ่งข้างๆ ที่ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาสักนิดมันก็ดีมากแล้ว วีเลยอยากชวนแพทริคมาร้องด้วยกัน เราก็เริ่มจากเขียนไอเดียด้วยกัน จะได้เป็นสองฝั่งที่ดาวน์ แล้วเป็นกำลังใจให้กันด้วย”

“เพลง Toxic วีได้ลองเอาไปเล่นมาแล้ว แล้วมันเดือดมาก ทุกคนต้องโดดแน่นอน จริงๆ เพลงนี้วีทำมาเพื่อสนุกอยู่แล้ว ทั้งพลังในเพลงเองคือมันส์มาก ต้องสนุก ซะใจแน่ๆ”
“อัลบั้มที่แล้ววีทำแล้วเครียดมาก พอทำออกมาดนตรีมันจะเครียดๆ ทะมึนๆ ดาร์กๆ เพราะเรากดดันตัวเองเยอะ รอบนี้เราเลยอยากทำอะไรที่มันสนุกขึ้น ทำแล้วไม่เครียด เอามันส์อย่างเดียว แล้วได้ทำกับเพื่อนๆ ระหว่างทางมันก็เลยออกมาสนุก เป็นเพลงที่แตกต่างไปจากเดิม แล้วคอนเซปต์มันไม่เหมือนกันด้วย มันทำให้วิธีต่างๆ ในการทำงานเปลี่ยนไป เพราะเราเรียนรู้จากที่ผ่านๆ ด้วย ว่าทำแบบนี้มันไม่เวิร์ก เราก็ลองทำแบบใหม่ เจอวิธีการทำงานใหม่ๆ ซึ่งมันสนุกดี”

“ตอนแรกวีก็คิดว่าจะแตกต่าง แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ค่อยได้แตกต่างขนาดนั้นเลย วีรู้สึกว่าตอนเขียนภาษาอังกฤษ เพลงมันมีกรอบน้อยกว่า แต่พอมาเขียนภาษาไทยกลับกลายเป็นว่า เราก็เขียนได้ และก็มีภาษาของตัวเอง ที่มันออกมาแล้วรู้สึกเลยว่า มีลายเซ็นเอกลักษณ์ในภาษาไทยเหมือนกัน ซึ่งในการทำงานมันไม่ได้ซีเรียสอะไร อยู่ที่คอนเซปต์ของอัลบั้มมากกว่า กับวิธีการสร้างอัลบั้มที่ต่าง แต่ถ้าพูดถึงตัวภาษาเองมันก็ไม่ได้ต่างขนาดนั้น”
“อยากให้รู้สึกทุกอย่างเลย ทั้งดาวน์ ทั้งอารมณ์ดี อยากให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว คุณมีค่าพอ จงรักตัวเองให้มาก โดยที่คุณไม่ต้องเอาตัวเองไปขึ้นกับความรู้สึกของคนอื่น ว่าเราดีพอสำหรับเขาหรือยัง ให้เรามองที่ตัวเอง ว่าเราดีพอสำหรับตัวเราหรือยัง แล้วถ้าเขามองไม่เห็นมันก็…ระวังจะเสียใจนะ”
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia