หน้าฝน เมืองไทย ไม่น่าเที่ยวจริงหรือ !? ต้องลองออกไปพิสูจน์ดู แล้วจะรู้ว่า….. ธรรมชาติหลังฝนโปรยปราย งดงามขนาดไหน ! จากสถิติการท่องเที่ยวในประเทศไทย หน้าฝนเป็นช่วงที่คนไม่ค่อยนิยมไปท่องเที่ยว เพราะด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวพายุเข้า เดาใจได้ยาก ทั้งยังไม่ชอบความเฉอะแฉะ และกลัวการเดินทางที่ยากลำบาก แต่จะรู้หรือเปล่าว่า ช่วงหน้าฝนนี้แหละ เป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติสวยงดงามมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ลองออกไป เที่ยวภูเขา กันดูไหม?
โดยข้อดีของหน้าฝน เมื่อเป็น Low Season ของการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่เราต้องการไป จะมีคนน้อยมาก เวลาเที่ยวก็ไม่ต้องไปเบียดเสียดหรือวุ่นวายกับใคร แถมรู้สึกเป็นส่วนตัวมาก ๆ และเมื่อคนไม่ค่อยนิยมไป ทำให้ราคาที่พัก ตั๋วเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ มักจะถูกกว่าช่วงอื่น ๆ นั่นเอง ที่สำคัญด้วยความชุ่มฉ่ำของสายฝนที่โปรยลงมา ทำให้ต้นไม้ ใบหญ้า และดอกไม้ เจริญเติบโตออกดอกงอกงามสวยสะพรั่งไปทั่วทุกพื้นที่เลย หากคุณเป็นคนที่รักการผจญภัยแล้วละก็ Lifestyle Asia Thailand ขอแนะนำ 7 ยอดดอย ที่คุณพลาดไม่ได้ หากต้องการสัมผัสประสบการณ์เดินป่าแบบเต็ม ๆ นอนตั้งแคมป์รับอากาศดี ๆ ตกค่ำปิ้งหมูกระทะ จุ่มชาบู นอนดูดาว ในเมืองไทยจะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
Jump To / Table of Contents
1 /7
“วนอุทยานภูลังกา” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดพะเยา ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างน้อย อำเภอปง แหล่งเที่ยวชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า เป็นภูเขาสูงอยู่ในเขตเทือกเขาสันปันน้ำ มีความสูงของจุดยอดดอยอยู่ที่ประมาณ 1,720 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประกอบกับมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เลยเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดพะเยานั่นเอง
ไฮไลท์ของภูลังกา พะเยา คือการมายลความงามของทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนจนไปถึงฤดูหนาว พื้นที่ทั้งภูลังกาจะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกสีขาว มีดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า สาดแสงส่องสว่างอย่างช้า ๆ ใครที่ได้มาสัมผัสวินาทีนั้น พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า สวยเกินคำบรรยาย และในตอนกลางคืน บริเวณภูลังกาจะสามารถมองเห็นดาวส่องประกายระยิบระยับเต็มไปทั่วท้องฟ้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
@Credit Image: https://www.py-pao.go.th/wp-newweb/?p=8137
2 /7
ดอยม่อนจอง อยู่ในอำเภอนันทบุรี คำว่า ม่อน เป็นภาษาเหนือหมายถึงดอย หรือเนินเขา และคำว่า จอง ก็เป็นภาษาเหนือเช่นกันมากจากคำว่า จ๋อง หมายถึงยอดสามเหลี่ยม โดยดอยม่อนจองมีความสูงประมาณ 1,929 เมตร ติด 1 ใน 10 ยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย ส่วนที่สูงคือ ยอดหัวสิงห์ ที่มองไปจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายหัวสิงโต
เป็นหนึ่งดอยที่ไปไม่ยาก แต่ได้บรรยากาศสวยแปลกตาของทุ่งหญ้าสีกับภูเขาสูงสลับซ้อนกัน เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมของทุกปีจะเป็นเวลาที่ดอกกุหลาบพันปีบานสะพรั่งงดงามมาก นักท่องเที่ยวสามารถชมได้ตามไหล่เขาด้วย
@Credit Image: https://thai.tourismthailand.org/
3 /7
มาอีกที่ของจังหวัดตากกันบ้าง มีภูเขาสีทองอร่ามที่ชื่อว่า ม่อนทูเล ตั้งอยู่ที่อำเภทท่าสองยาง มีความสูงกว่า 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ชื่อทูเลมาจากชาวปกาเกอะญอ ชาวเขาท้องถึ่ง พวกเขาเรียภูเขาแห่งนี้ว่า “ทูเลโค๊ะ” แปลว่า “ภูเขาสีทอง” เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี ทุ่งหญ้าตามทิวเขา จะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ยิ่งถ้าได้เห็นพร้อมทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวแล้วละก็ ฟิน อย่าบอกใครเลยล่ะ ไฮไลท์ของที่นี้คือมีวิวสันเขาที่เปิดโล่งถ่ายรูปได้สวยมาก และเห็นทะเลหมอกได้แทบทุกครั้งในตอนเช้า ส่วนตอนกลางคืนก็สามารถเห็นดาวได้เต็มฟ้า
การเดินทางทั้งทริปมีสองแบบจะใช้เวลา 3 วัน 2 คืน หรือ 2 วัน 1 คืนก็ได้ เป็นเส้นทางที่ยากระดับหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านยอดเขาในไทยอื่น ๆ มาแล้วบ้าง โดยใช้เวลาเดินประมาณ 5-7 ชั่วโมงแล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน เวลาเปิดอนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปคือช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
@Credit Image: https://thai.tourismthailand.org/
มากันที่ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย พื้นที่สงวนชีวมณฑลจาก UNESCO อย่าง ดอยหลวงเชียงดาว มีความสูง 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล การท่องเที่ยวไปยังดอยหลวงเชียงดาวจะสามารถไปได้สองยอดคือ ยอดดอยกิ่วลมที่เหมาะกับการ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า และยอดดอยสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว เหมาะสำหรับไปชมพระอาทิตย์ตก โดยบนยอดดอยหลวงเชียงดาว จะพบกับอีก 2 ดอยคือ ดอยสามพี่น้องและดอยพีรามิด
หากใครต้องการสัมผัสบรรยากาศดี ๆ บนยอด แนะนำให้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เพราะจะทำให้เก็บบรรยากาศได้ครบ และได้สัมผัสกิจกรรมผจญภัยแบบเต็ม ๆ โดยการเดินทางขึ้นนั้นใช้เวลาเดินป่าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ระหว่างทางจะได้สัมผัสวิวของป่าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา และมีนกหลายชนิดให้ได้ชมและส่องกัน บางคนโชคดีจะได้เจอกับกวางผาอย่างใกล้ชิดด้วย
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเปิดคือตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. ของทุกปี เป็นเวลา 5 เดือน สามารถติดต่อท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือใช้บริการทัวร์เดินป่าที่จัดการทุกอย่างขึ้นไปได้
@Credit Image: https://thai.tourismthailand.org/
ตามรอยซากุระเมืองไทย บรรยากาศสุดโรแมนติก ที่เหมือนได้วาร์ปมาอยู่ญี่ปุ่นสวยเกินต้านกับ หนองน้ำท่ามกลางสวนซากุระเมืองไทย วิวด้านหลังเป็นทิวเขาสูง หมอกคลอเคลียหยอกล้อไหลผ่านไปมา ซึ่งจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงฤดูหนาว
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยท ตั้งอยู่ที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยหลวงอ่างกา” ชื่อของ ดอยอินทนนท์ เป็นชื่อของกษัตริย์พระนามว่าพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงเป็นผู้ที่ห่วงใยในป่าทางภาคเหนือและพยายามรักษาไว้ ภายหลังเสด็จพิราลัย พระอัฐิส่วนหนึ่งได้เชิญไปประดิษฐาน ณ พระสถูปบนยอดดอยหลวง และเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติ
@Credit Image: https://th.wikipedia.org/wiki/ดอยอินทนนท์
6 /7
เป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) อยู่เลยขึ้นไปจากพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ 4 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งของดอยปุยอยู่ในแนวของเทือกเขาถนนธงชัย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,658 เมตร สภาพภูมิประเทศของดอยปุยเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และป่าสน และดอกไม้เมืองหนาวที่ชาวเขาปลูกไว้ บนดอยปุยมีอากาศหนาวเย็นและชื้นเกือบตลอดทั้งปี ทางขึ้นไปยังดอยปุยเป็นถนนลาดยาง คดเคี้ยว ทางแคบพอรถสวนกันได้ และลาดชันเป็นบางช่วง
ถ้ามาในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมดอกนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพูสวยงาม ที่กำลังเบ่งบานรับนักท่องเที่ยว เดินทางง่ายๆ เพราะใกล้ตัวเมืองมากที่สุด ที่ศูนย์วิจัยขุ่นช้างเคี่ยน ดอยปุย กางเต็นท์นอนผิงไฟ จิบชาเบาๆ เอาบรรยากาศ ลมหนาวช่วงต้นปี จุดเด่นคือ อุโมงค์ดอกซากุระที่สวยงาม
@Credit Image: https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
7 /7
ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ป่าต้นน้ำ ป่าดึกดำบรรพ์ปลายทางหิมาลัย ขุนเขาใต้ทะเล แหล่งค้นพบดอกชมพูภูคา ดอกไม้หายากที่จะบานในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกชมพูภูคาจะผลิดอกตามปลายกิ่งเป็นช่อสีชมพูยาว 30-35 เซนติเมตร เมื่อบานเต็มที่จะมีช่อดอกเป็นพุ่มสวยงาม มีพื้นที่ทั้งหมด 1,065,000 ไร่ หรือ ประมาณ 1,704 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอในจังหวัดน่าน คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม
โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน สูงถึง 1,980 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ดอยภูคายังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว และลำน้ำว้า จากทะเลสู่ทิวเขา มีข้อสันนิษฐานหนึ่งระบุว่า บริเวณอุทยานฯ แห่งนี้ เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน ก่อนจะเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดินสองผืนใต้ทะเลเข้าหากัน ทำให้แผ่นดินโก่งตัวขึ้น น้ำทะเลใต้ดินระเหยไป เหลือเพียงสินแร่เกลือดังที่พบในอำเภอบ่อเกลือ นอกจากนี้หลักฐานอีกชิ้นที่ยืนยันข้อสมมติฐานนี้ได้ดี คือ การค้นพบสุสานหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปี บนดอยภูแวที่บ้านค้างฮ่อ ตำบลสะกาด อำเภอปัว ซึ่งมีลักษณะเป็นหอยแครงสองฝา
@Credit Image: https://www.facebook.com/profile.php?id=100067849770542&mibextid=ZbWKwL
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia
Hero and Featured images:
www.thai.tourismthailand.org/
www.tourismproduct.tourismthailand.org/